จำนวนผู้ป่วย โควิดเยอรมนี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดติดเชื้อใหม่พุ่งทะลุ 5 หมื่นราย ด้านนายกฯ เร่งประชาชนฉีดวัคซีนโควิด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการเยอรมนีพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 52,826 ราย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถือเป็นจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันที่มากที่สุดของประเทศเยอรมนี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา
จากจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ทำให้หลายฝ่ายแสดงถึงความกังวลถึง ระบบสาธารณสุขเยอรมนี ที่ในขณะนี้เตียงผู้ป่วยในห้อง ICU ใกล้เต็ม พร้อมด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่แพทย์ที่ไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องส่งผู้ป่วยบางรายไปรักษาในต่างประเทศ
ขณะที่นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศเยอรมนีได้ออกมา เร่งการฉีดวัคซีนเข็มสามหรือเข็มกระตุ้น พร้อมฝากข้อความถึงประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด ให้รีบวัคซีนเข็มแรกทันทีอย่างไรก็ตามประเทศเยอรมนีไม่ใช่ประเทศเดียวในทวีปยุโรปที่เจอผู้ป่วยโควิดใหม่เพิ่มขึ้น
สื่อจีน ออกมาเผยแพร่ จดหมาย จาก เผิง ฉ่วย นักเทนนิสหญิงที่ออกมากล่าวหาว่าเธอถูกอดีตรองนายกฯล่วงละเมิดนานหลายสิบปี ว่าเธอสบายดีและการกล่าวหาไม่จริง ขณะที่ชาวเน็ตสงสัยว่าเป็นจดหมายปลอม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย สตีฟ ไซมอน ประธานของสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง หรือ WTA ได้ออกมาแสดงความเห็น ไม่เชื่อจดหมายจากที่สำนักข่าว CGTN
ซึ่งเป็นสำนักข่าวที่สนับสนุนโดยรัฐบาลจีนได้ออกมาเผยแพร่จดหมายของ เผิง ฉ่วย นักเทนนิสหญิงชาวจีน อดีตมือวางอันดับหนึ่ง กล่าวหา จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ว่า ตนถูกล่วงละเมิดทางเพศเธอ และหลับนอนกับเธอกับร่วมสิบปี
โดยจดหมายฉบับดังกล่าวระบุว่า เนื้อหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเนื้อหาได้รับการเผยแพร่ออกไปโดยไม่ได้รับการยินยอมของเธอ พร้อมระบุว่าเธอไม่ได้หายตัวไปไหน และเธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านของเธอ พร้อมขอบคุณที่เป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่จดหมายฉบับนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตได้ออกมาตั้งข้อสงสัย เนื่องจากในจดหมายฉบับดังกล่าวยังมีเคอร์เซอร์ปรากฏอยู่ และทำให้ชาวเน็ตเชื่อว่าจดหมายฉบับนี้ถูกพิมพ์ขึ้นเอง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เธอได้เล่าว่าในวันเกษียณอายุของ จาง เกาลี่ เขาได้ชวนเธอไปร่วมรับประทานอาหารอดีตรองนายกฯและภรรยา ก่อนที่นาย จาง เกาลี่ จะกดดันให้นักเทนนิสสาว ร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งเธอเล่าว่าบ่ายวันเกิดเหตุเธอได้แต่ร้องไห้และปฏิเสธ จาง เกาลี่ อย่างไรก็ตามเธอยอมรับในภายหลังว่าเธอกับนายจาง เกาลี่ เริ่มความสัมพันธ์แบบลับๆกัน
ซึ่งในโพสต์ ยังระบุว่า “ฉันไม่มีหลักฐาน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทิ้งหลักฐานใดๆไว้ คุณกลัวเสมอว่าฉันจะนำบางอย่าง เช่น เครื่องบันทึกเทป ไปบันทึกหลักฐาน หรืออะไรก็ตาม มันไม่มีการบันทึกเสียง ไม่มีการบันทึกวิดีโอ มันมีแต่ประสบการณ์ที่บิดเบี้ยวของฉัน แต่ทุกอย่างคือเรื่องจริง”
หลังจากที่การเปิดโปงครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไป นักเทนนิสอดีมือวางอันดับหนึ่งก็ไม่ได้ปรากฎตัวสาธารณชน และสร้างความกังวลกับแฟนเทนนิสเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง WTA ได้ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถติดตามตัวของเธอได้เช่นเดียวกัน
‘โจ ไบเดน’ ลงนามเซ็น กฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 39 ล้านล้านบาท
ไบเดน พร้อมด้วยตัวแทนจากพรรคเดโมแครตและริพลับลิกัน ร่วมลงนามเซ็น กฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ถือคริปโตหวั่นต้องแจ้งภาษีกับรัฐด้วย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนาม บังคับใช้ กฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมูลค่า 39 ล้านล้านบาท ถือเป็นกฎหมายเพื่อการปรับปรุงยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าสูงสุดของอเมริกาในช่วงเวลากว่าครึ่งศตวรรษ
โดยกฎหมายฉบับนี้จะจ่ายเงินให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯมูลค่า 18 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขสาธารณูปโภคของประเทศในช่วงห้าปีถัดจากนี้ ทั้งถนน ทั้งสะพาน ระบบพลังงานต่างๆ ขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตสำหรับชาวอเมริกัน แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการสร้างงานให้ประชาชนด้วย
อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับดังกล่าวถูกจับตาเป็นอย่างมาก หลังจากที่ สำนักงานงบประมาณรัฐสภา หรือ CBO ออกมาเปิดเผยว่า กฎหมายฉบับนี้จะส่งผลให้การรายงานภาษีผ่านไป ซึ่งผู้ที่เข้ารายงานภาษีจะต้องแสดงถึงค่าเงินสกุลดิจิตัล หรือ การใช้จ่ายต่างๆที่ผ่านค่าเงินดิจิตัลด้วย
โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อที่รัฐบาลจะสามารถจ่ายเม็ดเงินมหาศาลที่เป็นค่าใช้จ่ายจากกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานนอกจากนี้ทางรัฐบาลจะพยายามนำเงินเยียวยาโควิดที่ไม่ได้ใช้มาร่วมสมทบทุนครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้การลงมติเป็นไปอย่างชื่นมื่น หลังจากที่มีตัวแทนจากสองพรรคใหญ่เข้าร่วมการลงนามครั้งนี้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักในวงการการเมืองสหรัฐฯ
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง